ตัดเกรด ทัพช้างศึก แมตช์สอนเชิง รัวถล่มอินโด ตุนความได้เปรียบไว้ถึง 4 ประตู
ในยกแรกของรอบชิงฯ !!
ตัดเกรด ทัพช้างศึก ในนัดชิงชนะเลิศ ศึกฟุตบอล “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020” หรือ อาเซี่ยนคัพ นัดแรก ที่ประเทศสิงคโปร์
เกมการแข่งขันที่จบลงไป อย่างคาดไม่ถึงเนื่องด้วยจากผลการแข่งขัน ที่อาจจะดูขาดลอยเอามาก ๆ สำหรับเกมนัดชิงชนะเลิศ นัดแรก ของศึกฟุตบอล “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020” ที่ประเทศสิงคโปร์ โดยเป็นแชมป์ 5 สมัย ทีมชาติไทย ที่ไล่ถล่ม รองแชมป์ 5 สมัย ทีมชาติอินโดนีเซีย ไปแบบขาดลอย 4 ประตูต่อ 0 ติดตาม บทความกีฬาที่น่าสนใจ
ตัดเกรด ทัพช้างศึก การประเมินฟอร์มการเล่น ของนักเตะทีมชาติไทย
หลังฟอร์มเยี่ยมยอดแบบนี้ ว่าใครจะเป็นอย่างไรกันบ้าง !?
ผู้รักษาประตู : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (คะแนน : 7/10)
“เจ้าแชมป์” ประตูจอมเก๋าของทัพ “ปราสาทสายฟ้า” นั้นแทบไม่เจอลูกที่กดดันอะไรจากเกมรุกของ อินโดฯ เลย มีโอกาสเซฟ 1 ครั้งในช่วงครึ่งหลังเพียงเท่านั้น โดยรวมถือว่ารักษาผลงานได้ดีเหมือนเดิม
เซนเตอร์ฮาล์ฟ : เอเลียส ดอเลาะ (คะแนน : 6.5/10)
กองหลังร่างยักษ์เจ้าของส่วนสูง 196 ซม. ของ “สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือ Fc. อยู่ช่วยทีมได้ไม่ทันจบครึ่งแรก หลังได้รับบาดเจ็บเสียก่อน แต่ในช่วงที่เขาอยู่ในสนามนั้นถือว่าโชว์ฟอร์มได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว แถมมีโอกาสโหม่งทำประตูให้ทีม แต่เสียดายบอลย้อยข้ามคานออกไป
เซนเตอร์ฮาล์ฟ : กฤษดา กาแมน (คะแนน : 8/10)
“เจ้าแระ” แนวรับดาวรุ่งสาระพัดประโยชน์ของค่าย “ฉลามชล” ชลบุรี Fc. และก็เป็นอีกแมตช์ที่มีความนิ่งที่เป็นเลิศ เรื่องทางบอลเค้าดีจริง ๆ บวกกับเกมนี้ดูจะไม่ใช่งานหนักหนาอะไร เมื่อเทียบกับเกมที่ผ่าน ๆ มา นอกนั้นภาพรวมยังรักษามาตรฐานไว้ได้ดีเช่นเคย
แบ็คซ้าย : ทริสตอง สมชาย โด (คะแนน : 8/10)
จากค่าย “แข่งเทพ” ทรู แบ็งค็อก ยูไนเต็ด ส่งเข้าประกวด เป็นเกมที่ช่วยทั้งเกมรับ และเกมรุก ได้ดี สามารถลบคำสมประมาทลงไปได้ “โด” โชว์ให้เห็นแล้วว่าแม้จะไม่ใช่ตำแหน่งที่เขาถนัด แต่ก็ยังลงเล่นได้อย่างไม่มีที่ติจริงๆ
แบ็คขวา : ฟิลิป โรลเลอร์ (คะแนน : 8/10)
นักเตะสาระพัดประโยชน์จาก “สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือ Fc. รายนี้เติมรุกได้อย่างจี๊ดจ๊าด โดดเด่นอย่างมาก หลังได้รับโอกาสลงตัวจริง และก็จัดแอสซิสต์ไป 2 ประตู แถมตลอดเกมวิ่งเติมเกมทั้งรุกทั้งรับไม่มีหมด ทำเอาแนวรับ อิเหนา ไล่ตามแทบไม่ทัน ต้องบอกเลยว่าเกมนี้โชว์ผลงานได้ยอดเยี่ยมจริงมากจริงๆ คะแนน : 9
กองกลาง : วีระเทพ ป้อมพันธุ์ (คะแนน : 8.5/10)
จากค่าย “กิเรนผยอง” เมืองทองยูไนเต็ด ภูมิใจเสนอ ในเกมนี้ วีระเทพนั้นได้รับบทลงไปเล่นกองหลังจำเป็น กลับกลายเป็นทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเหลือเกิน ด้วยแท็กติกที่ต้องถอยไปเล่นแทน เอเลียส ดอเลาะ ที่บาดเจ็บต้องเปลี่ยนตัวออกไป เขาก็โชว์ฝีเท้าให้เห็นแล้วว่าเป็นผู้เล่นสารพัดประโยชน์แค่ไหน
กองกลางตัวรับ : พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล (คะแนน : 7.5/10)
มิดฟิลด์ปิดทองหลังพระจาก “ทัพกว่างซ้มมหาภัย” เชียงราย ยูไนเต็ด อยู่ช่วยทีม 60 นาที เพื่อรักษาความฟิทในเกมนัดที่ 2 ฟอร์มโดยรวมถือว่ายังคงยอดเยี่ยม ช่วยทีมสกัดบอลบริเวณกลางสนามได้หลายต่อหลายครั้ง ยังคงเป็นนักเตะที่เป็นหัวใจในแดนกลางที่ขาดไม่ได้เลยจริงๆ
เพลย์เมคเกอร์ : ชนาธิป สรงกระสินธ์ (คะแนน : 9.5) แมน ฮ๊อฟ เดอะ แมตช์
“กัปตันเจ” ของ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร กับ 2 ประตูที่สุดเฉียบขาดของเขาแถมประตูแรกที่ยิงได้อย่างรวดเร็ว ทำให้รูปเกมกลายเป็นของทีมชาติไทยโดยปริยาย เสียดายที่ไม่สามารถจัด 3 ประตู เป็นแฮตทริคในเกมนี้ได้ แต่ก็ถือว่ายิงรวมไปแล้ว 4 ตุงขึ้นมารั้งดาวซัลโวร่วมในรายการหนนี้แล้ว
ปีกซ้าย : บดินทร์ ผาลา (คะแนน : 9/10)
ปีกจอมทักษะจาก “สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือ มีโอกาสลากเลื้อยตะลุยทะลุทะลวงทางฝั่งซ้าย สร้างความปั่นป่วนให้กับ แผงหลังอินโดได้อย่างแสบสัน ก่อนจะมายิงประตูปิดฝาโรง 4-0 ช่วยให้ “ทัพช้างศึก” นั้นเก็บชัยชนะไปอย่างสวยหรู และได้เห็นถึงทักษะ และคลาสบอล ในความคล่องตัวที่สุดยอดของเขาได้ชัดเจนมากๆ ในนัดนี้
ปีกขวา : สุภโชค สารชาติ (คะแนน : 9/10)
แนวรุกจาก “ทัพปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด วันนี้ยิง 1 จ่าย 1 และเป็นอีกคนที่มีความปราดเปรียวมากในแผงเกมรุกของทีมชาติไทย คอยวิ่งซัพพอร์ตเพื่อนร่วมทีมอยู่เสมอ ถือเป็นอีกแข้งที่โดดเด่นมาก ๆ ในแมตช์นี้
ศูนย์หน้า : ธีรศิลป์ แดงดา (คะแนน : 6/10)
เป็นเกมที่ “เจ้ามุ้ย” เล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐาน ด้วยสภาพร่างกายที่ดูเนือย ๆ อย่างเห็นได้ชัด แถมไม่มีโอกาสอะไรมากมายเลย พอมีจังหวะที่จะจบสกอร์ก็ดันยิงไม่ดีเองอีก
-ตัวสำรอง-
ปกเกล้า อนันต์ (คะแนน : 7/10)
ลงมาเล่นแทน เอเลียส ดอเลาะ ในนาทีที่ 39 แม้อาจจะไม่โดดเด่นอะไรมากมาย แต่ด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมาก็ยังช่วยซัพพอร์ตน้องๆ ในทีมได้เป็นอย่างดี
ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ (คะแนน : 6.5/10)
มาโน่ ส่งลงมาเล่นแทน พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล ใน น.60 ซึ่งเป็นการปรับแท็กติกที่ลงมาเพื่อวิ่งบู๊ตรงกลาง คอยไล่บีบนักเตะอินโดฯ ที่กำลังจะหมดเรี่ยวหมดแรง และถือว่าทำได้ดีตามแบบฉบับของเขาเอง
ศุภชัย ใจเด็ด (คะแนน : 6/10)
ลงมาเล่นแทน ธีรศิลป์ แดงดา ใน น.60 อาจจะมีโอกาส และพยายามจะจบสกอร์เอง แต่ก็ไม่สามารถทำให้เป็นประตูได้ เนื่องจากมีเวลาประมาณครึ่งชั่วโมง บางจังหวะที่ควรส่ง หรือทำทางให้เพื่อน แต่เค้าก็ยังพยายามจะจบสกอร์ด้วยตนเองให้ได้ แต่ยังคงไม่ประสบผลสำเร็จ ดูทำให้ทีมเสียโอกาสที่จะได้ประตูเพิ่มไปอีก
กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ (ไม่สามารถประเมินคะแนนได้)
ลงมาเฝ้าเสาแทน ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ใน น.74 ซึ่งเป็นช่วงท้ายเกม ซึ่งไม่ได้เจอโอกาสที่อินโดฯ จะทำเกมรุกขึ้นมาลุ้นประตูได้เลย จึงยังไม่สามารถประเมินคะแนนให้ได้
วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ (คะแนน : 7.5/10)
ลงมาเล่นแทน ชนาธิป สรงกระสินธ์ ใน น.74 แต่ได้จัดไป 1 แอสซิสต์อย่างเฉียบคมให้ บดินทร์ ผาลา ทำประตูได้ ถือว่าเป็นการจ่ายบอลที่ยอดเยี่ยมอีกครั้งของ “เจ้ายิม” เลยทีเดียว
Megabomb